การแก้ไขรายละเอียดของหน้าตัดโครงสร้างเหล็ก

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน

วันนี้ผมจะขออนุญาตมาทำการโพสต์และแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ความรู้ทางด้านงานออกแบบที่เกี่ยวข้องกันกับการทำงานทางด้านวิศวกรรมโครงสร้างที่อยู่ เหนือพื้นดินขึ้นมา และ ใต้พื้นดินลงไป มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ

วันนี้ผมจะขออนุญาตพาเพื่อนๆ ทุกคนไปพบกับเทคนิคในการทำงานเทคนิคง่ายๆ เทคนิคหนึ่งที่เพื่อนๆ อาจจะได้ไปพบเจอตอนทำงานออกแบบวิศวกรรมโครงสร้าง ซึ่งเป็นประสบการณ์จริงๆ ของผมในอดีตงานหนึ่ง นั่นก็คือการแก้ไขรายละเอียดของหน้าตัดโครงสร้างเหล็กนั่นเองนะครับ

 

เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนหน้าที่จะทำรายการคำนวณฉบับที่เห็นในโพสต์ๆ นี้ผมก็ทำการออกแบบโครงสร้างหน้าตัดเหล็กบนพื้นฐานของข้อมูลต่างๆ ทีได้รับมาจากสถาปนิก ซึ่งผมก็ได้ทำการออกแบบให้เป็นหน้าตัดโครงสร้างเหล็ก H-BEAM ขนาด H-400x200x13x8mm แต่ เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าของเกิดไปคุยกับทางสถาปนิกแล้วพบว่า จำเป็นที่จะต้องทำการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ ในส่วนของแปลนการก่อสร้างและก็จะส่งผลต่อเรื่องน้ำหนักบรรทุกที่คานๆ นี้จะต้องรับด้วย ประกอบกับการที่สถาปนิกได้ขอร้องมายังผมว่า เค้าอยากที่จะทำการรักษาความลึกของคานไว้ที่ 400 มม ตามที่ผมได้ทำการออกแบบไว้ในครั้งแรก เนื่องด้วยในบริเวณนี้มีระดับความสูงของฝ้า (CEILING HEIGHT) ที่ค่อนข้างจะจำกัดมากๆ

 

พอผมทำการวิเคราะห์โครงสร้างด้วยน้ำหนักบรรทุกใหม่จึงพบว่า หน้าตัดโครงสร้างเหล็กดังกล่าวจะไม่ผ่านเกณฑ์ในเรื่องของระยะการโก่งตัวในแนวดิ่ง นั่นก็คือ ระยะการการโก่งตัวจะมีค่าเท่ากับ 114 มม ซึ่งค่าระยะการโก่งตัวในแนวดิ่งที่ยอมให้มีค่าเท่ากับ 62.5 มม ครั้นการเปลี่ยนแปลงให้หน้าตัดเหล็กหน้าตัดนี้มีความกว้างที่มากยิ่งขึ้น ก็ดูจะไม่ใช่ทางออกที่ดีเท่าใดนัก เพราะ ผรม คงจะไม่ชอบแน่ๆ เพราะงานๆ นี้เป็นงาน TURN KEY ที่ต้องทำการ DESIGN และ BUILT ไปพร้อมๆ กันด้วย คงจะเกิดปัญหาเรื่องงานลดงานเพิ่มตามมาอีกมากมาย หากว่าเพื่อนๆ ต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้เพื่อนๆ จะทำอย่างไรกันครับ ?

 

ผมได้ทำการสอบถามไปยัง ผรม เพื่อที่จะเจรจาว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องงานเพิ่มเกิดขึ้นที่หน้างาน ผรม จึงแจ้งกลับมาว่า ที่หน้างานนั้นมีแผ่นเหล็กขนาดความหนา 12 มม เหลือจากการทำงานอยู่มากพอสมควร และ ในเมื่อปัญหาหลักของเรานั้นอยู่ที่เราไม่อยากที่จะเพิ่มขนาดของหน้าตัดเหล็กของเราในขณะที่หน้าตัดๆ นี้มีปัญหาเรื่องระยะการโก่งตัวที่มากจนเกินไป พูดง่ายๆ คือปัญหาจริงๆ แล้วอยู่ที่ค่า โมเมนต์ความเฉื่อย (MOMENT OF INERTIA) ที่มีค่าน้อยเกินไป ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ตรงไปตรงมามากที่สุดก็คือ การเพิ่มค่าโมเมนต์ความเฉื่อย ให้แก่หน้าตัดเดิมโดยที่ไม่ต้องทำการขยายหน้าตัดนั่นเองนะครับ

 

โดยที่ผมเลือกที่จะทำการเสริมที่ผิวบน (TOP FIBER) และที่ผิวล่าง (BOTTOM FIBER) ด้วยเหล็กแผ่นขนาดความกว้างเท่ากับ 190 มม ความหนาเท่ากับ 12 มม เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ค่าโมเมนต์ความเฉื่อยนั้นเพิ่มขึ้นมาเกือบๆ 2 เท่าเลยนะครับ ซึ่งในที่สุดก็จะทำให้ระยะการโก่งตัวในแนวดิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหลือเพียง 61.87 มม ซึ่งก็จะมีค่าน้อยกว่าระยะการโก่งตัวในแนวดิ่งที่ยอมให้ซึ่งมีค่าเท่ากับ 62.5 มม แล้วนั่นเองนะครับ

 

หากเพื่อนๆ จะขอนำเอาเทคนิคๆ นี้ไปใช้งาน ก็เชิญได้เลยนะครับ ผมไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใด เพียงแต่ผมต้องเน้นย้ำเอาไว้ตรงนี้เลยนะครับว่า เราต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจในทุกๆ เรื่องทุกๆ ประเด็นเสียก่อน เช่น เรื่องระยะการค้ำยันทางด้านข้างของคานภายหลังการเสริมว่าเพียงพอหรือไม่ หรือ เรื่องหน้าตัดเหล็กแผ่นที่ทำการเสริมเข้าไปนั้นจะต้องมี ขนาด และ ความยาว ของรอยเชื่อมที่มากเพียงพอที่จะทำการส่งถ่ายแรงเฉือนในระนาบได้อย่างเพียงพอ เป็นต้นนะครับ

 

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านในวันนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ

#ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบโครงสร้างเหนือและใต้ดิน

#ความรู้เรื่องการเสริมหน้าตัดโครงสร้างเหล็กเพื่อให้มีค่าโมเมนต์ความเฉื่อยที่มากเพียงพอต่อการต้านทานการโก่งตัวในแนวดิ่งที่เกิดขึ้น

ADMIN JAMES DEAN


บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปัน ไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The Provision of Pile Driving Service และได้รับการรับรอง ISO 9001:2015 ของระบบ UKAS และ NAC รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ตามมาตรฐานในกระบวนการ การออกแบบเสาเข็มสปันไมโครไพล์ การผลิตเสาเข็มสปันไมโครไพล์ และบริการตอกเสาเข็มเสาเข็มสปันไมโครไพล์ (Design and Manufacturing of Spun Micropile/Micropile and Pile Driving Service) Certified by SGS (Thailand) Ltd.

บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด คือผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในไทย ที่ได้รับการรับรองคุณภาพ Endoresed Brand จาก SCG ด้านการผลิตเสาเข็ม สปันไมโครไพล์ และได้รับเครื่องหมาย มาตรฐาน อุตสาหกรรม มอก. 397-2524 เสาเข็มสปันไมโครไพล์ Spun Micro Pile พร้อมรับประกันผลงาน และความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง 7+ Year Warranty เสาเข็มมีรูกลมกลวงตรงกลาง การระบายดินทำได้ดี เมื่อตอกแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก จึงไม่กระทบโครงสร้างเดิม หรือพื้นที่ข้างเคียง ไม่ต้องขนดินทิ้ง ตอกถึงชั้นดินดานได้ ด้วยเสาเข็มคุณภาพมาตรฐาน มอก. การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากประเทศเยอรมัน เสาเข็มสามารถทำงานในที่แคบได้ หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน เสาเข็มสามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 15-50 ตัน/ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดเสาเข็มและสภาพชั้นดิน แต่ละพื้นที่ ทดสอบโดย Dynamic Load Test ด้วยคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มเราจึงเป็นที่นิยมในงานต่อเติม

รายการเสาเข็มภูมิสยาม

1. สี่เหลี่ยม S18x18 cm.

รับน้ำหนัก 15-20 ตัน/ต้น

2. กลม Dia 21 cm.

รับน้ำหนัก 20-25 ตัน/ต้น

3. กลม Dia 25 cm.

รับน้ำหนัก 25-35 ตัน/ต้น

4. กลม Dia 30 cm.

รับน้ำหนัก 30-50 ตัน/ต้น

(การรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่)

☎ สายด่วนภูมิสยาม:
082-790-1447
082-790-1448
082-790-1449
091-947-8945
081-634-6586

? Web:
bhumisiam.com
micro-pile.com
spun-micropile.com
microspunpile.com
bhumisiammicropile.com